เคยไหม? เดินทางทริปยาวๆ ถ่ายรูปเพลิน เปิด Google Maps ตลอดทั้งวัน สุดท้ายแบตมือถือหมดตอนที่ต้องใช้มันที่สุด ยิ่งถ้าอยู่ในที่ไม่มีปลั๊ก ไม่มีพาวเวอร์แบงค์ หรืออยู่ในต่างประเทศ การแบตหมดอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เลย
โชคดีที่การประหยัดแบตไม่ใช่เรื่องยาก วันนี้เราจะมาแชร์ 7 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณประหยัดแบตมือถือขณะเดินทางได้จริง ไม่ต้องลดการใช้งาน แต่ใช้ให้ชาญฉลาดขึ้น

1. เปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Battery Saver)
ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Android ส่วนใหญ่จะมีโหมดประหยัดพลังงาน ลองเปิดใช้งานตั้งแต่เริ่มเดินทาง เครื่องจะลดการทำงานเบื้องหลัง ปรับแสงหน้าจอ และหยุดบางฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น ซึ่งช่วยประหยัดแบตได้มากโดยแทบไม่รู้สึกถึงความต่าง
2. ปิดสัญญาณที่ไม่ได้ใช้งาน
ถ้าไม่ได้ใช้ Wi-Fi, Bluetooth หรือ AirDrop ให้ปิดไว้ เพราะสัญญาณเหล่านี้จะค้นหาอุปกรณ์ตลอดเวลา และกินแบตแบบไม่รู้ตัว
- ปิด Wi-Fi ถ้าไม่ได้เชื่อมต่อ
- ปิด Bluetooth และ NFC ถ้าไม่ได้ใช้อุปกรณ์เสริม
- ปิด Hotspot ถ้าไม่มีใครใช้งาน
3. ลดความสว่างหน้าจอ
หน้าจอคือสิ่งที่ใช้พลังงานมากที่สุดในมือถือ หากอยู่ในที่ร่มหรือตอนกลางคืน ลดความสว่างลง หรือเปิดโหมดมืด (Dark Mode) จะช่วยให้แบตอยู่ได้นานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
4. ใช้แผนที่แบบออฟไลน์
Google Maps หรือแอปนำทางส่วนใหญ่อนุญาตให้ดาวน์โหลดแผนที่ไว้ล่วงหน้า การเปิดแผนที่ออฟไลน์จะช่วยลดการใช้เน็ต และประหยัดแบตได้มากกว่าการโหลดสดตลอดเวลา
5. ปิดแอปที่ไม่ใช้งาน
หลายแอปแม้ไม่ได้เปิดใช้งานก็ยังทำงานเบื้องหลัง เช่น โซเชียลมีเดีย หรือแอปแชท ลองเช็กแอปในพื้นหลังแล้วปิดให้หมด โดยเฉพาะแอปที่ไม่เกี่ยวกับการเดินทาง
6. ปิดการแจ้งเตือนชั่วคราว
การแจ้งเตือน (Notifications) แต่ละอันใช้พลังงาน ทั้งการดึงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การสั่น หรือเปิดหน้าจออัตโนมัติ ถ้าไม่จำเป็นมาก ลองปิดการแจ้งเตือนชั่วคราวระหว่างเดินทาง
7. ใช้โหมดเครื่องบินเมื่อไม่ต้องการสัญญาณ
หากคุณอยู่บนเครื่องบินหรือในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือ การเปิดโหมดเครื่องบินจะช่วยประหยัดแบตได้มาก เพราะมือถือจะหยุดพยายามค้นหาสัญญาณ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กินพลังงานสูง
สรุป
การประหยัดแบตมือถือระหว่างเดินทางไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคซับซ้อน แต่เป็นเรื่องของการรู้จักปิดสิ่งที่ไม่จำเป็น และวางแผนล่วงหน้าเล็กน้อยเท่านั้น
ถ้าเริ่มฝึกทำเป็นนิสัย คุณจะรู้ว่าแม้ไม่มีพาวเวอร์แบงค์ มือถือของคุณก็สามารถอยู่รอดได้ตลอดทริป!
ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดู แล้วถ้าคุณมีเคล็ดลับอื่นในการประหยัดแบตขณะเดินทาง อย่าลืมแชร์ในคอมเมนต์ หรือส่งบทความนี้ให้เพื่อนนักเดินทางของคุณด้วยนะ!